กำแพงเมืองจีน... คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของมันใช่ไหม?คิดถึงภาพกำแพงยาวเหยียดที่ทอดตัวข้ามภูเขาและผ่านลำน้ำ ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุดเราอาจจะนึกถึงความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจที่ซ่อนอยู่ในทุกก้อนอิฐและหินเหล่านั้น ที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องแผ่นดินจีนจากศัตรูในยุคโบราณแต่เบื้องหลังของกำแพงนี้มีเรื่องราวที่ลึกซึ้งกว่าที่เราคิดมากมาย
การก่อสร้างกำแพงเมืองจีนเริ่มต้นขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 221 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เมื่อจักรพรรดิฉินฉีอหวงต้องการสร้างกำแพงที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวจากหลายๆ กำแพงที่มีอยู่เดิมในภาคเหนือ เพื่อป้องกันการโจมตีจากชนเผ่าร่อนเร่ที่มาจากทางตอนเหนือ เช่น ชนเผ่าฮั่นและชนเผ่ามองโกลกำแพงนี้ไม่ได้เป็นแค่สิ่งก่อสร้างธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและการต่อสู้เพื่อปกป้องอาณาจักรจากภัยคุกคามภายนอก
คิดถึงภาพทหารและช่างฝีมือที่ต้องทำงานกันอย่างหนัก สร้างกำแพงที่ยาวและสูงจนไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดได้มันไม่ใช่แค่การสร้างกำแพงที่ทำให้มันยาวที่สุดในโลก แต่มันคือการสร้างความมั่นคงให้กับแผ่นดินจีนในสมัยนั้นใช้ชีวิตของคนจำนวนมากในการสร้างโครงสร้างที่ยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้
กำแพงเมืองจีนไม่ได้มีแค่หน้าที่ป้องกันศัตรู แต่มันยังเป็นเส้นทางสำหรับการเดินทางและการติดต่อสื่อสารระหว่างพื้นที่ต่างๆ ภายในประเทศด้วยคุณสามารถนึกถึงทหารที่ยืนเฝ้าดูเส้นทางเดินข้ามภูเขาและที่ราบที่กว้างใหญ่ มีทั้งที่ราบสูงและภูเขาสูงชัน ซึ่งการเดินทางบนกำแพงนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนึกภาพเอาไว้ว่า การเดินขึ้นไปบนกำแพงในวันที่แดดจัด หรือฝนตกหนัก คงเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมาก
ปัจจุบัน เมื่อเรามองกำแพงเมืองจีนจากมุมสูง หรือจากจุดที่ยืนอยู่บนยอดเขา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือความยิ่งใหญ่และความทุ่มเทที่ไม่มีที่สิ้นสุดคงไม่มีการสร้างสรรค์ใดที่สามารถทดแทนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ ไม่ว่าจะเป็นความทุ่มเทในการก่อสร้าง หรือการเสียสละของคนรุ่นก่อน
แม้เวลาจะผ่านไป แต่กำแพงเมืองจีนยังคงยืนหยัดท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกมันไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ แต่มันคือประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของการป้องกัน ความกล้าหาญ และความหวังที่ไม่มีวันหมดสิ้นของผู้คนในสมัยนั้นแม้ว่าจะไม่มีทหารเฝ้ากำแพงเหล่านั้นอีกต่อไป แต่มันยังคงยืนอยู่เป็นเครื่องหมายแห่งความยิ่งใหญ่ของจีนในอดีตจนถึงทุกวันนี้